ถังเก็บน้ำ หรือแทงค์น้ำ คืออะไร?

ถังเก็บน้ำ หรือแทงค์น้ำ คือ อุปกรณ์ หรือภาชนะที่ใช้สำหรับกักเก็บน้ำสำรอง ไว้ใช้ในบ้าน อาคาร หรือสถานที่ต่าง ๆ ในยามฉุกเฉิน และทำหน้าที่เป็นจุดพักน้ำ ช่วยให้สิ่งสกปรก หรือตะกอนตกตะกอนก่อนส่งต่อไปใช้งานในชีวิตประจำวัน
ถังเก็บน้ำ มีกี่รูปแบบการติดตั้ง และกี่ประเภทให้เลือกใช้
การเลือกถังเก็บน้ำให้เหมาะสมกับบ้านควรเริ่มจากการทำความเข้าใจ ประเภทของถังน้ำ และรูปแบบการติดตั้งก่อน ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ทั้งในเรื่องวัสดุ ความทนทาน และราคาที่ต่างกัน โดยถังเก็บน้ำที่นิยมใช้ในปัจจุบัน แบ่งออกได้ดังนี้
1. การติดตั้ง ถังเก็บน้ำรูปแบบ บนดิน
ถังเก็บน้ำบนดิน เป็นรูปแบบที่พบได้บ่อยที่สุดในบ้านพักอาศัยทั่วไป เพราะติดตั้งง่าย ดูแลสะดวก และประหยัดงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสำรองน้ำใช้ในชีวิตประจำวัน โดยถังเก็บน้ำบนดินเอง ก็สามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ได้แก่
ถังเก็บน้ำพลาสติก
ถังประเภทนี้ ผลิตจากพอลิเมอร์ต่าง ๆ ซึ่งนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เช่น ถังเก็บน้ำ PE, PTT และ Inno-Poly
จุดเด่น
- ราคาย่อมเยา เหมาะกับงบประมาณทั่วไป
- น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย
- ติดตั้งสะดวก รวดเร็ว
- มีหลากหลายสี หลายรูปทรง และหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึง ถังเก็บน้ำ 1000 ลิตร หรือมากกว่า
ข้อควรระวัง
- หากใช้พลาสติกเกรดไม่ดี อาจเสื่อมสภาพไวเมื่อโดนแดดจัด
- ควรเลือกถังที่มีสารป้องกันรังสี UV (UV-stabilized) เพื่อยืดอายุการใช้งาน
- ถังราคาถูกเกินไป อาจมีความบาง ไม่ทนแรงดันน้ำ
เหมาะสำหรับ : บ้านพักอาศัยทั่วไปที่ต้องการถังเก็บน้ำบนดิน ราคาประหยัด ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก
ถังเก็บน้ำสเตนเลส
ถังประเภทนี้ ผลิตจากเหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless Steel) ซึ่งเป็นที่นิยมมานานด้วยความขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง
จุดเด่น
- แข็งแรงทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน
- ไม่เป็นสนิม
- ปลอดภัยจากสารเคมีและกลิ่น
- ป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำได้ดี
ข้อควรระวัง
- ราคาสูงกว่าถังพลาสติก
- ไม่เหมาะกับการใช้น้ำเค็ม หรือน้ำกร่อย เพราะอาจกัดกร่อนในระยะยาว
- ควรติดตั้งในที่ร่ม หลีกเลี่ยงแดดจัด
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่เน้นความทนทาน ความสะอาดของน้ำ และการใช้งานที่ยาวนาน
2. การติดตั้ง ถังเก็บน้ำรูปแบบ ใต้ดิน
ถังเก็บน้ำใต้ดิน เหมาะกับบ้านหรืออาคารที่มีพื้นที่จำกัด หรือผู้ที่ไม่อยากให้เห็นถังน้ำมาตั้งเกะกะ เพราะซ่อนถังได้สวยงาม ประหยัดพื้นที่ และเก็บน้ำได้เย็นกว่าเนื่องจากไม่โดนแดด แต่การติดตั้งก็จะซับซ้อนกว่าและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น โดยถังเก็บน้ำที่เหมาะกับการติดตั้งใต้ดิน ได้แก่
ถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาส
ถังประเภทนี้ ผลิตจากเส้นใยแก้วเสริมแรงกับเรซิน มีความแข็งแรงและน้ำหนักเบา
จุดเด่น
- ทนทานต่อสารเคมี เหมาะกับงานอุตสาหกรรม
- น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก
- ทนแดด ทนฝน ไม่เป็นสนิม
ข้อควรระวัง
- ราคาสูงกว่าถังพลาสติกทั่วไป
- ควรเลือกผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน หากคุณภาพการผลิตไม่ดี อาจเกิดการรั่วซึมได้
เหมาะสำหรับ : โรงงานอุตสาหกรรม หรือสถานประกอบการที่ต้องเก็บน้ำหรือสารเคมี และบ้านที่ต้องการถังน้ำขนาดใหญ่ทนทาน แต่น้ำหนักเบา
ถังคอนกรีต
ถังประเภทนี้นิยมใช้กันมาอย่างยาวนาน และมักเป็นแบบฝังดินหรือสร้างถาวร
จุดเด่น
- แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน
- เหมาะกับการติดตั้งใต้ดิน
- ทนต่อแรงดันน้ำสูง ไม่เสียรูป
ข้อควรระวัง
- น้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายและติดตั้งยาก
- หากก่อสร้างไม่ดี อาจเกิดการรั่วซึมที่รอยต่อได้
- ไม่เหมาะกับการติดตั้งบนดิน เนื่องจากดูไม่สวยงามและกินพื้นที่
เหมาะสำหรับ : อาคารขนาดใหญ่ โรงงาน หรือบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอ และต้องการถังเก็บน้ำที่ทนทานในระยะยาวแบบไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
แต่ไม่ว่าจะเลือกถังเก็บน้ำแบบไหน การเลือกสินค้าที่ได้มาตรฐานโดยมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาอย่าง ตงการช่างซัพพลาย ที่พร้อมให้คำแนะนำเรื่องถังเก็บน้ำทุกประเภท จะช่วยให้คุณเลือกแทงก์น้ำได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าที่สุด
เคล็ดลับวิธีเลือกถังเก็บน้ำให้เหมาะกับคุณ
การเลือกแทงก์น้ำอาจดูเหมือนเรื่องง่าย แต่จริง ๆ แล้วมีรายละเอียดปลีกย่อยที่หลายคนมักมองข้าม ถ้าพลาดเลือกผิดตั้งแต่แรก อาจเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน ทั้งซ่อมแซมและเปลี่ยนใหม่
มาดูกันว่า 8 เคล็ดลับสำคัญ ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อแทงก์เก็บน้ำมีอะไรบ้าง!
1. เลือกขนาดถังเก็บน้ำให้พอดีกับการใช้งาน
เรื่องแรกที่ต้องคิดคือ ขนาดของแทงก์เก็บน้ำ เพราะถ้าหากเลือกแทงก์น้ำเล็กไปก็ไม่พอใช้ ใหญ่ไปก็เกินความจำเป็นและสิ้นเปลืองงบ เรามีสูตรง่าย ๆ มาฝาก
- บ้านพักอาศัย 2–3 คน เลือกถังเก็บน้ำ 500–700 ลิตร
- ครอบครัว 3–4 คน เลือกถังเก็บน้ำ 1000 ลิตร
- บ้านใหญ่/โครงการ เลือกถังเก็บน้ำ 1500–3000 ลิตร
- โรงงาน/เกษตร อาจต้องใช้ตั้งแต่ 5000 ลิตรขึ้นไป
เช่น ถังเก็บน้ำ 1000 ลิตร เป็นไซซ์ยอดนิยม เหมาะกับบ้านครอบครัวเล็กถึงกลาง
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมเผื่อการใช้น้ำอย่างน้อย 1–2 วันต่อจำนวนผู้อยู่อาศัยจริง เพื่อความสบายใจเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างน้ำประปาไม่ไหล
2. เลือกวัสดุถังเก็บน้ำให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม
วัสดุเป็นตัวกำหนดทั้งความทนทานและคุณภาพน้ำที่เก็บไว้ มาดูกันว่ามีแบบไหนบ้าง
- สเตนเลส (Stainless Steel) : แข็งแรง ทนแดด ทนฝน แต่ต้องเลือก Food Grade เพื่อป้องกันสนิม บางรุ่นราคาสูง และถ้าอยู่ใกล้ทะเลอาจเสี่ยงเรื่องการกัดกร่อน
- โพลีเอทิลีน (PE) : พลาสติกคุณภาพสูง ทึบแสง ไม่เป็นสนิม น้ำหนักเบา ราคาย่อมเยา เหมาะกับบ้านพักอาศัย และโครงการทั่วไป
- ไฟเบอร์กลาส (FRP) : ทนทานมาก ใช้ได้ทั้งบนดินและใต้ดิน แม้ราคาสูงแต่คุ้มระยะยาว
แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่แดดแรง แนะนำเลือกถัง PE ทึบแสง หรือไฟเบอร์กลาส เพราะเป็นวัสดุที่ช่วยป้องกันความร้อนและลดการเกิดตะไคร่น้ำได้ดี
เพื่อให้เห็นภาพและเข้าใจง่าย เราได้สรุปมาเป็นตารางเปรียบเทียบให้แล้ว
| วัสดุถังเก็บน้ำ | ข้อดี | ข้อเสีย | อายุการใช้งาน | เหมาะกับใคร |
| สเตนเลส | แข็งแรง ทนแดดฝน | ถ้าไม่ใช่ Food Grade เสี่ยงสนิม ราคาแพงกว่า | 5–10 ปี | บ้าน/โครงการที่ต้องการความแข็งแรง ทนทาน |
| PE (โพลีเอทิลีน) | น้ำหนักเบา กันตะไคร่น้ำ ราคาย่อมเยาสวยงาม | บางรุ่นไม่ทนแดดจัด สีซีดเร็ว | 10–20 ปี | บ้านทั่วไป ร้านค้า โรงแรม |
| ไฟเบอร์กลาส | แข็งแรงมาก ใช้ได้ทั้งบนดิน/ใต้ดิน | ราคาสูง ต้องติดตั้งอย่างมืออาชีพ | 10 – 20 | งานโครงการใหญ่ โรงงาน เกษตร |
3. เลือกตำแหน่งติดตั้งบนดิน หรือใต้ดิน
อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตก็คือ ถังเก็บน้ำบนดินกับถังเก็บน้ำใต้ดิน เลือกแบบไหนดี? เพราะตำแหน่งติดตั้งมีผลต่อทั้งการใช้งานและงบประมาณ
ถังเก็บน้ำบนดิน
- ติดตั้งง่าย ซ่อมง่าย
- ราคาถูกกว่า
- เหมาะกับบ้านทั่วไป
ถังเก็บน้ำใต้ดิน
- ประหยัดพื้นที่ มองไม่เห็น ไม่เกะกะ
- คงที่เรื่องอุณหภูมิ ไม่ร้อนจัด ไม่เย็นจัด
- ต้องลงทุนโครงสร้างเพิ่ม เช่น ขุดหลุม และการป้องกันน้ำรั่วซึม
ถ้ามีพื้นที่กว้าง เลือกถังเก็บน้ำบนดินจะคุ้มค่าและประหยัดกว่า แต่ถ้าพื้นที่จำกัด หรืออยากให้บ้านดูโล่งสวย เลือกถังเก็บน้ำใต้ดินก็จะเวิร์กกว่า
4. มาตรฐาน มอก. และการรับประกัน
มองหา ตรามาตรฐาน มอก. เพราะเป็นการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยของวัสดุที่ใช้ผลิต และอย่าลืมเช็กเงื่อนไขการรับประกันของผู้ผลิตด้วย

5. ตรวจสอบโครงสร้างพื้นรองรับ
หลายคนอาจมองข้ามการตรวจสอบความพร้อมของโครงสร้างพื้นที่ที่จะติดตั้งแทงก์เก็บน้ำไป บางบ้านวางถังเก็บน้ำใหญ่ ๆ บนพื้นดินหรือแผ่นซีเมนต์บาง ๆ สุดท้ายพื้นทรุด ถังเอียง หรือแตกรั่ว
ดังนั้น หากเลือกถังเก็บน้ำบนดิน ควรมีพื้นคอนกรีตหนาอย่างน้อย 10–15 ซม. และกว้างกว่าฐานถังรอบด้าน เพื่อกระจายน้ำหนักได้ดี
6. ออกแบบการเชื่อมต่อกับระบบท่อและปั๊มน้ำ
ปัญหาที่หลายคนเจอ คือ ซื้อถังเก็บน้ำแล้วเจอปัญหาว่าแรงดันน้ำไม่พอ หรือปั๊มน้ำทำงานหนักเกินไป เพราะเลือกถังเก็บน้ำอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องคำนึงถึงแรงดันน้ำและกำลังปั๊มน้ำควบคู่กัน แนะนำให้เลือกถังเก็บน้ำควบคู่ไปกับการออกแบบระบบปั๊มน้ำและท่อประปาภายในบ้านไปพร้อม ๆ กัน
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม: ปั๊มน้ำแบบไหนดี? แชร์เทคนิคเลือกปั๊มน้ำบ้านให้เหมาะกับการใช้งาน

7. พิจารณาความสะดวกในการทำความสะอาด
ถังเก็บน้ำต้องมีฝาปิดที่แน่นหนา ป้องกันฝุ่นและแมลง แต่ก็ต้องเปิดทำความสะอาดได้ง่าย อย่างน้อยควรล้างปีละ 1–2 ครั้ง เพื่อคุณภาพน้ำที่ดี
8. เลือกผู้จัดจำหน่ายที่เชื่อถือได้
ถังเก็บน้ำถือเป็นการลงทุนระยะยาว ควรซื้อจากร้านที่ไว้ใจได้ มีของพร้อมส่ง และให้คำปรึกษาได้จริง ไม่ใช่แค่ขายแล้วจบ
ที่ ตงการช่างซัพพลาย เรามีถังน้ำจากแบรนด์ชั้นนำ หลากหลายขนาด ทั้งถังเก็บน้ำบนดิน ใต้ดิน รวมถึงถังเก็บน้ำ 1000 ลิตรยอดนิยม พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยเลือกให้เหมาะกับคุณโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ร้านค้า หรือโครงการใหญ่
มั่นใจในทุกการใช้น้ำด้วยถังเก็บน้ำคุณภาพ จากตงการช่างซัพพลาย
การเลือกถังเก็บน้ำที่มีมาตรฐาน คุณภาพดีช่วยให้การใช้งานได้ยาวนานและมั่นใจในน้ำสะอาดยิ่งขึ้น เพราะหากถังเก็บน้ำที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้น้ำเสื่อมคุณภาพและใช้งานได้ไม่กี่ปี
ที่ ตงการช่างซัพพลาย เราเป็นตัวแทนจำหน่ายท่อและอุปกรณ์ประปาครบวงจรในหาดใหญ่ คัดสรรเฉพาะถังน้ำคุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำ ทั้งถังบนดิน ถังใต้ดิน และถังขนาด 1,000 ลิตร ครบทุกขนาด ในราคาย่อมเยา พร้อมบริการจัดส่งรวดเร็ว และสามารถเข้ามาเลือกซื้อสินค้าได้ที่หน้าร้าน หรือหากไม่สะดวก สามารถสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ได้เลย
หากใครกำลังสงสัยว่าแทงก์เก็บน้ำแบบไหนดี หรืออยากได้คำปรึกษาเรื่องการเลือกถังน้ำและอุปกรณ์ประปาแบบครบวงจร แวะมาหาที่ตงการช่างซัพพลายได้เลย ทีมงานเรายินดีแนะนำฟรี เพื่อให้คุณเลือกถังเก็บน้ำที่เหมาะสม พร้อมบริการรวดเร็วและราคาคุ้มที่สุด
สนใจสั่งซื้อ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเรา
Add Line : @tongsupply
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ : 074-243-888
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับถังเก็บน้ำ
1. ถังเก็บน้ำควรทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน?
แนะนำให้ล้างถังเก็บน้ำทุก 6–12 เดือน ขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำในพื้นที่ ถ้าใช้น้ำบาดาลหรือมีตะกอนเยอะ ควรล้างบ่อยขึ้น เพื่อป้องกันตะกอนสะสมและเชื้อโรคปนเปื้อน
2. ถังเก็บน้ำควรติดตั้งให้สูงจากพื้นแค่ไหน?
ถังเก็บน้ำบนดินควรมีแท่นยกสูงจากพื้นอย่างน้อย 10–15 ซม. เพื่อป้องกันความชื้นสะสมและอายุการใช้งานของถัง ในกรณีวางบนดินธรรมชาติ ควรเทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อกระจายน้ำหนักถัง
3. ถังเก็บน้ำใต้ดินต้องทำฐานรากแบบไหน?
ถังใต้ดินควรติดตั้งบนฐานคอนกรีตเสริมเหล็กที่เรียบ แข็งแรง และมีการปรับระดับเพื่อป้องกันการทรุดตัว บางกรณีต้องทำผนังกันดินดัน (Retaining Wall) โดยเฉพาะถ้าเป็นดินอ่อนหรือมีระดับน้ำใต้ดินสูง
4. ควรเลือกถังเก็บน้ำกี่ชั้น (Single Layer / Double Layer)?
ถังแบบ Double Layer หรือ Triple Layer เหมาะกับพื้นที่กลางแจ้ง เพราะช่วยป้องกันแสงแดดและลดการเกิดตะไคร่น้ำได้ดีกว่า ส่วน Single Layer เหมาะกับการติดตั้งในที่ร่มหรืองานที่ต้องการประหยัดงบ